สลด เกิดเหตุไฟไหม้บ้าน พ่อแม่ลูก 3 ศพ กอดกันเสียชีวิตในห้องน้ำ แมว-หมา ตายอีก 12 ตัว
นักข่าวกล่าวว่า วันนี้ เกิดเหตุ ไฟไหม้ บ้านเวลากลางดึก เจอ พ่อแม่ แล้วก็ลูก 1 ขวบ นอนกอดกันเสียชีวิตในห้องน้ำ แมว-สุนัข ถูกไฟคลอกตายอีก 12 ตัว
เหตุเกิดเพลิงไหม้บ้านเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางดึก เวลาราวๆ 01.45 น. วันนี้ ( 15 พ.ย.65) ร.ต.อ.ศาสตรา สีเข็ม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้าน และตนจึงได้รีบรุดไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งสถานะการณ์ดังที่กล่าวมาแล้วเกิดขึ้นข้างในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ในพื้นที่กลุ่ม 3 ตำบลลำผักกูด อำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงผสานให้ระดมทีมรถยนต์ฉีดน้ำดับเพลิงจากหน่วยงานใกล้เคียง จำนวน 3 คัน พร้อมเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุเลาสาธารณภัย เทศบาลตำบลธัญบุรี แล้วก็อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
สำหรับในจุดเกิดเหตุนั้นเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดี่ยว ประกอบกิจการรับซ่อมแซมแอร์บ้าน แล้วก็ เครื่องใช้ไฟฟ้า บ้านเลขที่ 99/294 ม.3 ตำบลลำผักกูด อำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยวางอยู่เต็มบ้าน เจอแสงสว่างเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงพร้อมทั้งเสียงระเบิดที่ดังขึ้นเป็นช่วงๆเจ้าหน้าที่จึงจำต้องระดมรีบฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกรามไปยังบ้านข้างเคียง โดยใช้เวลาร่วมๆราวๆเกือบจะ 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลงได้
จากการตรวจในเบื้องต้น จึงเจอผู้ตายทั้งหมดทั้งปวง 3 ราย ลักษณะที่คล้ายนอนกอดกันอยู่ด้านในห้องน้ำ รู้ชื่อคือ นายสิงห์คนอง อายุ 43 ปี (ช่างแอร์) พร้อมเมีย นางละออง อายุ 40 ปี แล้วก็ ลูกชายชื่อ ด.ช.สินมหัต นวนมะ อายุ 1 ปี ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงเป็นพ่อแม่ลูกกัน นอกจากนั้น ยังตรวจเจอสัตว์เลี้ยงอีกจำนวน 12 ตัว ซึ่งเป็นแมวที่ถูกไฟคลอก 11 ตัว แล้วก็หมาอีก 1 ตัว
นายจรัญ สุทธิสนธิ์ เจ้าหน้าที่ทุเลาสาธารณะภัยเทศบาลตำบลธัญบุรี กล่าวว่า ได้รับบอกเหตุว่ามี ไฟไหม้ บ้านช่องพลเมือง
ซึ่งขณะที่พนักงานดับเพลิงได้มาถึงนั้นไม่สามารถที่จะเข้าไปข้างในได้แล้วด้วยเหตุว่ามีประตูเหล็กได้พังลงมาปิดกีดขวางทางเข้าเอาไว้ จึงทำได้เพียงแค่ช่วยกันฉีดน้ำสกัดแล้วนำเหล็กออกมา ก่อนจะสามารถดับไฟได้
จากนั้นจึงได้เข้าไปตรวจสอบข้างในตัวบ้าน แล้วก็พบว่ามีผู้ตายจำนวน 3 ราย อยู่ในลักษณะนอนกอดกันอยู่ด้านในห้องน้ำ ซึ่งทั้งยังสามรายไม่ได้ถูกไฟครอกอะไร แต่ ปัจจัยการเสียชีวิต คงจะเกิดจาก การสูดดมควันเข้าไป เยอะๆ จึงส่งผลให้เกิดอาการสำลักควันแล้วก็ขาดอากาศหายใจในที่สุด โดยเพลิงไหม้จากข้างนอกและลามเข้าไปข้างใน เนื่องจากว่าด้วยเหตุว่าสภาพบ้านข้างนอกถูกไหม้เสียหายเยอะ ส่วนในตัวบ้านข้างในยังคงมีสภาพดีมากยิ่งกว่าข้างนอก
จากการถามไถ่ นางสาววรรณิษา นกกาศักดิ์ อายุ 35 ปีผู้พบเห็นเหตุการณ์ ได้กล่าวว่า เหตุอัคคีภัยได้เกิดขึ้นเวลาราวๆเที่ยงคืนซึ่งตนได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมา จึงรีบออกมามองปรากฏว่าเห็นไฟได้ลุกไหม้ที่บ้านของช่างแอร์พร้อมรถยนต์ ในบ้านหลังนั้นได้ มีผู้อยู่อาศัย จำนวน 3 คน เป็น พ่อแม่ ลูก แล้วก็ ได้ติดอยู่ในบ้าน ซึ่งคาดว่าไม่สามารถออกมาได้ ด้วยเหตุว่าทั้งบ้าน มีเหล็กดัดเกือบทั้งหลัง แถมยังมีเครื่องใช้ไม้สอยในการติดตั้งและซ่อมแซมแอร์บ้าน ที่เป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดีจึงส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ในคราวนี้
ทางด้าน นางสาวฉัตรกมล อายุ 30 ปี เพื่อนบ้านจุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ตัวเองได้ตื่นลุกขึ้นมาเพื่อจะมาเข้าสุขา แล้วได้ยินเสียงคนคุยกัน จึงได้เดินไปเปิดผ้าม่านมองจากหน้าต่างก็เห็นเเสงไฟเยอะไปหมด ซึ่งแสงสว่างนั้นมาจากบ้านของช่างแอร์ เนื่องจากว่าบ้านเขามีแต่วัสดุไวไฟทั้งหมด โดยไฟได้โหมไหม้จากทางหน้าบ้านเข้าไปข้างในตัวบ้าน ทีแรกๆตัวเองก็มีความคิดว่าพี่ผู้ชายดำเนินงานอยู่หน้าบ้าน เนื่องจากว่าพี่ผู้ชายเป็นคนขยันดำเนินงานถึงตี 1 ตี 2
แล้วก็ภายหลังจาก ไฟไหม้ ตนก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว เนื่องด้วยไฟแรงมากมาย
ไม่มีผู้ใดเข้าไปใกล้ได้เลย จึงได้รีบโทรแจ้งพนักงานดับเพลิง แล้วได้วิ่งออกไปบอกประชาชนให้มาช่วยกัน โดยตัวเองแจ้งดับเพลิงไปไม่ถึง 10 นาที รถดับเพลิงก็มาไวมากมาย
นางสาวฉัตรกมล เพื่อนบ้านของผู้ตายยังได้กล่าวอีกด้วยว่า โดยนิสัยใจคอของคนบ้านนี้เป็นคนดีมากมาย ซึ่งพี่ผู้ชายชอบพาเด็กๆออกมาเดินเล่น ด้วยความที่พวกเรารักเด็กก็จะได้เข้าไปเล่นกับน้องเขาประจำ ซึ่งเมื่อตอนเวลาเย็นทางพี่ผู้ชายพึ่งจะได้ซื้อตู้แช่เย็นมาอีกจำนวน 2 หลัง แล้วเอาไปวางปิดทางเข้าหน้าบ้านของเขา ตัวเองยังถามแฟนเลยว่าแล้วพี่เขาจะเข้าจะเข้าออกบ้านยังไง กระทั่งมามีสถานะการณ์การเกิดเพลิงไหม้ดังที่กล่าวมาแล้ว
ขณะที่ ร.ต.อ. ศาสตรา สีเข็ม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี ได้ตรวจตราสถานที่เกิดเหตุจึงได้กระทำการบันทึกภาพจุดเกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมผสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจตราบริเวณรอบๆจุดเกิดเหตุ
ดังนี้พนักงานสอบสวน ได้ตรวจตราจุดเกิดเหตุ ร่วมชันสูตรวินิจฉัยศพ พร้อมทั้งหมอเวรโรงพยาบาลธัญบุรี ส่วนผู้ตายทั้ง 3 คน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ได้นำร่างส่งพิสูจน์ยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ (เฉลิมพระเกียรติ) ส่วนศพของสัตว์เลี้ยงทั้ง 12 ตัว ได้ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำเก็บรวบรวมไปให้ ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลดำเนินการฝังกลบอีก ทางหนึ่ง
